Wednesday, May 7, 2008

ภาษาพาสนุก1

ภาษาพาสนุก 1
’จารย์มด


เคยมั้ยคะ เวลาที่จะต้องพูดภาษาอังกฤษ แล้วให้รู้สึกครั่นเนื้อครั่นตัว
กลัว ๆ กล้า ๆ ทีนี้พอกลั้นใจฟุดฟิดฟอไฟออกไปแล้ว ถ้าไม่หน้าแตก
ก็เจอสีหน้างงปนเง็งของคนฟัง หรือพูดไปแล้วมารู้ทีหลังว่า ผิดนี่หว่า
แล้วก็ให้รู้สึกอายย้อนหลัง แหม ...ก็ไอ้ภาษาปะกิดเนี่ย
ไม่ใช่ภาษาพ่อแม่เรานี่นา มันก็มีผิดได้พลาดได้เป็นธรรมดา
(แต่ก็ไม่ควรผิดบ่อยนะคะ)

ทว่า นับแต่นี้เป็นตันไป เราจะมา speak English กันทีละนิดทีละหน่อย
พอให้เพลิน ๆ เพื่อว่าต่อไปในภายภาคหน้า เวลาที่จะต้องใช้ภาษาอังกฤษ
คุยกับคนต่างชาติ ในโอกาสต่าง ๆ จะได้ยืดอกพูดด้วยความมั่นใจว่า
ภาษาอังกฤษของเราไม่ใช่แค่ระดับ snake snake fish fish เท่านั้น
แต่ได้มาตรฐาน Longman, Oxford และ Webster เชียวนะ

เริ่มจากเรื่อง basic ก่อนละกัน จะพูดให้คล่อง ก็ต้องออกเสียงให้ถูกต้อง
ชัดเจนก่อน อย่างว่า แต่ละภาษาก็จะมีเสน่ห์ ที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง
ใช่มั้ยคะ อย่างภาษาไทยเราก็กิ๊บเก๋ที่เสียงวรรณยุกต์ทั้ง 5 อันได้แก่
สามัญ เอก โท ตรี และ จัตวา เพราะฉะนั้นถ้าจะพูดว่า
“พ่อเธอก็มา แม่เธอก็มา” แต่ดันเพี้ยนไปเป็น พ่อเธอก็หมา แม่เธอก็หมา
อย่างนี้มีต่อยแน่เลย หนำซ้ำอาจคุยกันไม่รู้เรื่อง หรือไม่ก็คุย
คนละเรื่องเดียวกันอยู่นาน สองนาน ตัวอย่างดังต่อไปนี้

ครั้งนึง ลูกศิษย์ที่ไปเรียนต่อที่อเมริกามาเล่าให้ฟังว่า เค้าไปทานอาหาร
กับเพื่อน ๆ อารามหิวจัดไปถึงก็ร้องขอ เม-นู บ๋อยก็ทำหน้างง
ทีนี้คนเราพอหิวมาก ๆ ก็มีอารมณ์ประเภทกล่องข้าวน้อยฆ่าแม่
ก็ชักหงุดหงิดย้ำเสียงดังขึ้นไปอีก จนเค้าได้ยินกันทั้งร้าน
ว่า เก๊ท มี เดอะ เม-นู (Get me the menu)

คราวนี้ด้วยความที่อยากได้สุด ๆ ก็เลยทำมือประกอบ เป็นรูปสี่เหลี่ยม
ได้ผลค่ะ ทั้งบ๋อยทั้งเพื่อน ๆ ในโต๊ะร้องออกมาพร้อมกัน
โอ้! เดอะเม็นยู (Oh! The Menu) เพล้ง ....ง แตกละเอียด
อายม้วนต้วน แทบจะแทรกแผ่นดินลุงแซมหนีไปเลย

มาสารภาพบาปเสียงอ่อยให้ฟัง “โธ่ ‘จารย์ ใครจะไปรู้ล่ะ อยู่เมืองไทย
บอกเมนู ก็ได้ทุกที ไม่เห็นมีปัญหา” นี่แหละค่ะ คำบางคำเราชิน
พูดกันในหมู่เราชาวไทยไม่มีปัญหา ก็นึกว่าถูก หารู้ไม่ว่า
Oh no no (ไม่ใช่ ไม่ใช่)

หรืออีกคำนึง ที่ได้ยินบ๊อยบ่อย คิดเป็นร้อยละ 90 ของผู้ที่ใช้คำนี้
เชื่อว่าคงคุ้นหูคุ้นตาแน่ ๆ เลย คำว่า proposal ไงละคะ
“อาจารย์จะให้ส่งพร้อพโพซอลเมื่อไหร่คะ”
“ช่วงนี้งานยุ่งสุด ๆ เนี่ยเจ้านายให้เขียนพร้อพโพซอลอยู่”

คนไหนบอกได้ ก็แก้ให้ค่ะ แต่ประเภทที่อาวุโสกว่า หรือรู้จักกันห่าง ๆ
ก็ไม่กล้าหรอกค่ะ ทำร้ายจิตใจกันเปล่า ๆ คราวหน้า ถ้าเจอใครพูด
ช่วย ๆ กันสะกิดก็แล้วกันนะคะ ว่าเค้าออกเสียงว่า
โพร – โพ้ส – ซอล Stress พยางค์ที่สองนะคะ

และคำยอดฮิตติดอันดับท้อปเทนอีกคำนึง คำว่า island ค่ะ
บางคนพอเห็นตัว s ก็เข้าใจว่า ต้องออกเสียง s ด้วย ก็ใส่เต็มที่
เรียกว่าทุ่มสุดตัว “ไปแฟชั่นไอ๊สฺแลนด์กันเถอะ” คงหาไม่เจอหรอกค่ะ
ไอ้ห้างที่ว่าเนี่ย เค้ามีแต่ “แฟชั่นไอ๊แล่นด์ค่ะ” ที่เป็นอย่างนี้ก็เพราะ
ภาษาอังกฤษก็มีข้อยกเว้นโน่น ยกเว้นนี่ คำบางคำก็มีการออกเสียง
เป็นกรณีพิเศษ ในที่นี้ ตัว s เป็น silent letter ไม่ต้องออกเสียง

และก็มีอยู่หลายคำเลยที่เข้าข่ายนี้ เช่น debt (หนี้) b ไม่ออกเสียง
เพราะฉะนั้น ก็อ่านว่า เด็ทฺ ค่ะ อย่าไปเด็บทฺที่ไหนเด็ดขาดนะคะ อายเค้า
คำสุดท้ายสำหรับวันนี้ ทำตัว inter ทานอาหารฝรั่งกันหน่อยนะคะ

ก่อนจะถึงอาหารจานหลัก (main course)
ก็ต้องนำด้วย salad ก่อน ใช่มั้ยคะ ต่างคนก็ต่าง
สะ-หลัดกันใหญ่ สะ-หลัดกุ้ง สะ-หลัดผัก สะ-หลัดโน่น สะ-หลัดนี่
ในร้านอาหารฝรั่งสัญชาติไทย ภูมิลำเนาไทยก็ไม่เป็นไรค่ะ
แต่ถ้าไปเจอ ตัวจริง เสียงจริง ต้องบอกว่า แซ้-เหลิด นะคะ
stress ที่พยางค์แรกค่ะ

แล้วถ้าจะขอครีมซอสปรุงรส
ไอ้ที่เราเรียกติดปากว่า มา-ยอง-เน้สนะพูดไปเถอะ มา-ยอง-เน้สพลีส
พูดให้ปากฉีกถึงใบหู ฝรั่งก็ไม่เข้าใจหรอกค่ะ
แหม ก็เค้าเรียกของเค้าซะหรูหราว่า เม-เยิน-เหน่ส
stress พยางค์สุดท้ายตรง เหน่ส นะคะ
ที่นี้ต่อไปก็อย่าไปยอง ๆ เน้ส ๆ กะเค้าล่ะ เค้าจะดูถูกเราได้
ดีไม่ดี ได้อาหารอะไรพิสดาร ๆ มาไม่รู้ด้วย และก็อย่าไปทำหน้าเหวอ
เวลาได้ยินเชียวนะคะ ถ้าไม่มั่นใจก็เก็บอาการไว้ก่อน

มีอุทาหรณ์สอนใจสำหรับเรื่องนี้ด้วยค่ะ
วันนั้น เข้าไปในร้านฟาสต์ฟู้ดชื่อดังแห่งหนึ่ง ยืนต่อแถวตามธรรมเนียม
ของผู้มีวัฒนธรรมอยู่ ก็เลยได้ยินฝรั่งข้างหน้าเราร้องสั่ง
“One cheese burger, one large Coke, please”
ก็นึกว่าต่อไปก็ตาเราแล้ว แต่เรื่องมันไม่ง่ายอย่างนั้นสิคะเพราะบังเอิญ
พี่หนุ่มผมทองนี่เค้าก็บอกพนักงาน เมย์ ไอ แฮฟ ซัม เม-เยิน-เหน่ส พลี้ส
(May I have some mayonnaise, please?)

คุณพนักงานสาวนางนี้ถึงกับมึนตึ้บไปเลย ท่าทางแกไม่รับรู้
สักนิดเดียวว่าเค้าหมายถึงอะไร แกก็ถาม “What?” พี่ผมทองก็ย้ำ
“Mayonnaise” แกก็ “What?” อีกที และคงจะอีกหลายทีด้วย
ถ้าพี่ผมทองแกไม่เปิดเบอร์เกอร์ของแกและชี้สิ่งที่แกต้องการ
พนักงานก็ค้อนประหลับประเหลือกไป 1 ยก ก่อนจะพึมพำกับเพื่อนข้าง ๆ ว่า
“จะเอามายองเนสก็ไม่บอกตั้งแต่แรก พูดจาไม่รู้เรื่อง”

ป่านนี้พี่ผมทองคนนั้นแกจะหายงงรึยังก็ไม่รู้ ว่าแกทำอะไรผิดไป
สงสัยคงเสียความมั่นใจไปเยอะเลย ที่แย่กว่านั้น ก็คือ พนักงานคนนั้น
จะรู้บ้างไหม ว่าเธอนั่นแหละที่ไม่รู้เรื่อง

นี่แหละคะ tips เล็ก ๆ น้อย ๆ สำหรับพกติดตัวไว้เป็นอาวุธลับ
เผื่อยามต้องใช้ เราจะได้พูดภาษาอังกฤษกันด้วยสำเนียงที่ฝรั่งยังต้อง
ยกนิ้วให้ในความ pro ของเรา (professional นะคะ ไม่ใช่ probation)
พร้อมที่จะ go inter กันอย่างมั่นใจ ไร้ที่ติกันถ้วนหน้า
Until we meet again (ค่ะ)

1 comment:

Unknown said...

เปลี่ยนสีได้ปะคะ ตาลาย อ่านจบแล้วปวดตามาก